รู้จักบัตรกดเงินสดให้มากขึ้นก่อนใช้

“บัตรกดเงินสด” หรือที่รู้จักกันว่า “สินเชื่อเงินสด” นั้น เป็นบริการหนึ่งที่ทางสถาบันการเงินมีไว้ เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เพราะในปัจจุบันนี้ เชื่อว่ามีหลายต่อหลายคนที่ประสบปัญหาเดือดร้อนเรื่องเงินอยู่และหาช่องทางการกู้เงินมากมาย ไม่ว่าจะเป็น บัตรเครดิตหรือ บัตรกดเงินสด หรือสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งผลิตภัณฑ์ต่างๆ ก็จะมีวัตถุประสงค์ในการใช้แตกต่างกันไป แต่สำหรับ บัตรกดเงินสด นั้นนับว่าเป็นแหล่งเงินหมุนเวียนที่สำคัญมากๆทางหนึ่งของคนที่เริ่มต้นทำงาน ที่ต้องการเงินสดในระยะสั้นๆ เลยก็ว่าได้ โดยคุณสมบัติของผู้ที่จะสมัคร และเงื่อนไขการสมัครนั้น ก็ค่อนข้างง่ายกว่าผลิตภัณฑ์อื่นๆ เพราะ เพียงคุณมีรายได้ขั้นต่ำ 8,000 – 15,000 บาทก็สามารถสมัครได้ แถมไม่ต้องมีหลักทรัพย์หรือบุคคลค้ำประกันด้วย เรียกว่า ง่ายจริงๆ สำหรับผู้ที่กำลังมองหาช่องทางการกู้เงินระยะสั้น และในส่วนของอัตราดอกเบี้ยสูงสุดจะอยู่ที่ 28 เปอร์เซนต์ต่อปี โดยจะทำการแบ่งไปตามฐานรายได้ของลูกค้า ซึ่งก็คือการแบ่งเป็นกลุ่มตามการอนุมัติของวงเงินที่ให้กับลูกค้านั่นเอง จากตรงนี้ ก็จะเห็นได้ชัดเจนขึ้นว่า บัตรกดเงินสด นั้นมีวัตถุประสงค์ต่างจาก บัตรเครดิต อยู่มากเลยทีเดียว

บัตรกดเงินสด ที่หลายคนมักคิดว่าคือบัตรเครดิตนั้น ในความเป็นจริงแล้วมีความแตกต่างกันมากเลย แท้จริงแล้ว บัตรกดเงินสด หรือ สินเชื่อเงินสด คือ บัตรที่ทางธนาคารหรือผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิตที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ พิจารณาออกให้แก่ผู้ถือบัตร โดยวงเงินหรือเงินจำนวนสูงสุดที่ได้รับ จะขึ้นอยู่กับรายได้เฉลี่ยในแต่ละเดือนของผู้สมัคร ซึ่งวงเงินที่ได้รับนี้ จะเป็นวงเงินที่ผู้ถือบัตรสามารถเบิกถอนเงินสดผ่านทางตู้ ATM ได้ตลอดเวลา โดยไม่จำเป็นต้องมีเงินฝากในบัญชี และไม่เสียค่าธรรมเนียมการเบิกถอนผ่านตู้ ATM เลย หากไม่มีการกดเงินสดออกมา ก็จะไม่มีการคำนวณค่าใช้จ่ายใดๆ นอกจากนี้ วงเงินที่ได้นั้น มักจะสูงกว่าบัตรเครดิตและให้ระยะเวลาการผ่อนคืนกลับมานานกว่าอีกด้วย แต่สำหรับบัตรเครดิตนั้นจะใช้รูดชำระสินค้าเป็นหลัก ซึ่งจะขอสรุปความแตกต่างเป็นข้อๆดังนี้

บัตรกดเงินสดนั้น สามารถใช้กดเงินสดได้ ผ่านตู้ ATM ตลอด 24 ชั่วโมง โดยที่ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมใดๆ แต่ไม่สามารถใช้รูดซื้อสินค้าใดๆได้ ซึ่งอัตราดอกเบี้ยสูงสุดจะอยู่ที่ 28% นอกจากนี้ วันที่ไม่มีการเบิกถอนเงินสด ก็จะไม่ถูกคำนวณดอกเบี้ยใดๆอีกด้วย
สำหรับบัตรเครดิตนั้น จะเน้นที่การรูดซื้อของเพื่อสะสมแต้มและรับส่วนลดจากร้านค้าต่างๆมากมาย สามารถกดเงินสดจากบัตรเครดิตได้เหมือนกัน แต่จะต้องเจอค่าธรรมเนียมการกดเงินสด 3%
บัตรกดเงินสดนั้น จะไม่ค่อยมีโปรโมชั่นสำหรับส่วนลด และสะสมแต้มเท่าไหร่ แต่จะเน้นที่เรื่องของการผ่อนชำระได้นานกว่า ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่พิเศษกว่านั่นเอง ซึ่งถ้าหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบการผ่อนนาน ก็สามารถเลือกสมัครบัตรกดเงินสดแทน น่าจะเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่งที่ตอบโจทย์มากกว่า
สำหรับบัตรเครดิตนั้น โปรโมชั่นและสิทธิพิเศษถือเป็นหัวใจสำคัญสำหรับผู้ที่สนใจสมัครบัตรเครดิต เพราะ ผู้สมัครเลือกบัตรเครดิต โดยดูจากไลฟ์สไตล์ของตัวเองและเลือกสมัครบัตรที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ รวมถึงบัตรที่จะให้สิทธิประโยชน์และสิทธิพิเศษที่เหนือกว่าบัตรใบอื่นๆ เช่น ชอบการท่องเที่ยว ก็เลือกสมัครบัตรที่อำนวยความสะดวกบวกกับสิทธิพิเศษที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวของคุณ ไม่ว่าจะเป็นส่วนลดการจองโรงแรม หรือตั๋วเครื่องบิน เมื่อจองและชำระเงินผ่านบัตรเครดิตใบนั้นๆ หรือบริการพิเศษอื่นๆที่มอบให้เฉพาะผู้ถือบัตร เช่น ห้องพักรับรอง เป็นต้น
บัตรกดเงินสดนั้น เงื่อนไขกับคุณสมบัติการสมัครนั้น จะค่อนข้างง่ายกว่า เช่น รายได้ขั้นต่ำเพียงแค่ 8,000 บาทก็สามารถสมัครได้ แถมยังไม่ต้องมีหลักทรัพย์หรือบุคคลค้ำประกันใดๆ นอกจากนี้ ในเรื่องของการทำงาน เพียงแค่ทำงาน 3-4 เดือน ณ ที่ทำงานปัจจุบันก็สามารถยื่นเรื่องสมัครได้เช่นกัน แต่ทั้งนี้ ถึงเงื่อนไขหรือคุณสมบัติจะง่ายกว่า แต่การอนุมัติบัตรก็ไม่ได้ง่ายขึ้นตามนะคะ เช่นเดียวกันกับบัตรเครดิตนั่นเองที่ต้องมีการตรวจสอบถึงประวัติการเงินของคุณก่อนทำการอนุมัติ สำหรับบัตรเครดิตนั้น ส่วนใหญ่แล้วผู้สมัครควรมีรายได้ขั้นต่ำ 15,000 บาทขึ้นไป และต้องทำงานอย่างน้อย 1 ปี ณ ที่ทำงานปัจจุบัน ซึ่งอย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า การอนุมัติบัตรเครดิตของแต่ละธนาคารนั้น ไม่ได้ง่าย แต่ก็ไม่ได้ยากเกินไป หากคุณมีประวัติการเงินที่ดี

รถรับจ้างขนของในสมัยก่อน

ธุรกิจรถรับจ้างยุคเริ่มต้นมีเพียงรถอิมพอร์ตเจ้าของร้านเป็นฝรั่งต่างชาติไม่กี่ร้านและแต่ละร้านก็สูญสลายไปใน เวลาต่อมาตำนานรถยนต์และธุรกิจรถยนต์ต่างเลือนไปจากความทรงจำของคนรุ่นปัจจุบันเสียสิ้นจากฝรั่งสู่มือคนไทย รถคันแรกในเมืองบางกอก ปี 2406 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 ทรงโปรดให้ตัดถนนสายแรกในมหานครขึ้นคือถนนเจริญกรุง ตั้งต้นที่กำแพงพระบรมมหาราชวังเลียบฝั่งเจ้าพระยาไปสิ้นสุดที่บางคอแหลมหรือถนนตกในปัจจุบัน ในยุคนั้นมีเพียงรถลากและรถม้าเป็นเจ้าครองถนนสายแรกที่มีความยาว 6.5 กม.และในช่วง 30 ปีต่อมาก็มีการตัดถนนเพิ่มเพียงไม่กี่สาย ในปี 2435 ในยุคของรัชกาลที่ 5 ถนนในเมืองบางกอกรวมกันแล้วมีความยาวเพียง 12 กม. แม้ถนนบางสายจะมีความกว้างถึง 20 เมตรก็ตาม หากหลับตานึกภาพบนท้องถนนสมัยนั้นมีรถยนต์มาวิ่งท่ามกลางรถม้าและ รถลากคงเกิดความโกลาหลไม่น้อย

การกำเนิดรถยนต์ในประเทศไทยและการที่พระราชวงศ์ไทยสนพระทัยในเรื่องรถยนต์เป็นเรื่องที่อุบัติขึ้นแทบ จะเป็นเวลาเดียวกันกับช่วงเปลี่ยนศตวรรษเมื่อเริ่มมีการผลิตรถยนต์ในยุโรปและอเมริกาเหนือ รถยนต์คันแรกขึ้นบกที่ท่าเรืออู่บางกอก และมีการขับไปตามท้องถนนท่ามกลางสายตาของประชาชนที่เฝ้ามองอย่างพิศวง รถรับจ้างสมัยต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 ไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นรถยี่ห้อใด คันเกียร์และคันห้ามล้อ ติดตั้งอยู่นอกตัวถังด้านขวามือของผู้ขับ รถยนต์อันเป็นเทคโนโลยีแห่งศตวรรษที่ 20 เข้ามาเมืองไทยครั้งแรกเมื่อใดยังเป็นข้อถกเถียงไม่สิ้นสุด แต่เชื่อกันว่าเป็นชาวต่างชาติเป็นผู้สั่งเข้ามาเป็นคนแรก รถคันนี้มีลักษณะคล้ายกับรถบดถนนในปัจจุบัน มีล้อเป็นยางตัน หลังคาคล้ายปะรำ ที่นั่ง 2 แถว ใช้น้ำมันปิโตเลียมเป็นเชื้อเพลิงและรถมีกำลังเพียงวิ่งตามพื้นราบ ไต่ขึ้นเนินสะพานไม่ได้ การใช้งานของรถคันแรกจึงมีขีดจำกัดเพราะท้องถนนเมืองบางกอกเต็มไปด้วยสะพานข้ามคลองสูง เพื่อให้เรือลอดผ่านได้ถือเป็นอุปสรรคสำคัญของรถยนต์ยุคนั้น